ปฏิเสธไม่ได้ว่าในโลกธุรกิจยุคนี้ ใคร ๆ ก็สามารถเริ่มต้นสร้างแบรนด์สินค้าได้ง่ายกว่าที่เคย “แพคเกจจิ้ง” จึงกลายเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่ช่วยเพิ่มมูลค่าและเสริมภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ แต่เบื้องหลังดีไซน์ที่ดูดีและคำโฆษณาชวนเชื่อ อาจแฝงไปด้วยกลลวงหรือค่าใช้จ่ายแอบแฝงที่ผู้ประกอบการมือใหม่อาจไม่ทันระวัง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 5 เคล็ดลับทำแพคเกจจิ้งอย่างชาญฉลาด พร้อมวิธีหลีกเลี่ยงการถูกเอาเปรียบจากโรงพิมพ์ เพื่อให้คุณลงทุนได้อย่างคุ้มค่า ปลอดภัย และมั่นใจในทุกขั้นตอน
1. ศึกษาประเภทงานพิมพ์ให้เข้าใจงานพิมพ์แพคเกจจิ้งมีหลายประเภทที่ผู้ประกอบการควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการ เช่น
ดิจิทัลปริ้นท์ (Digital Print) เหมาะสำหรับการผลิตจำนวนน้อย งานเร่งด่วน หรือการพิมพ์หลายลวดลายโดยไม่ต้องทำเพลท เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นแบรนด์ใหม่หรือต้องการทดลองตลาด
กราเวียร์ (Gravure) เหมาะกับการผลิตในปริมาณมาก ให้คุณภาพงานพิมพ์สูง สีสด คมชัด แต่มีต้นทุนค่าเพลทและมีขั้นต่ำในการสั่งผลิต
เคล็ดลับ: ก่อนตัดสินใจควรสอบถามโรงพิมพ์อย่างละเอียดว่าใช้ระบบพิมพ์แบบใดรวมถึงตรวจสอบว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าทำบล็อก ค่าออกแบบ หรือค่าแก้ไขงานหรือไม่เพื่อวางแผนงบประมาณได้แม่นยำและไม่เจอค่าใช้จ่ายแอบแฝงภายหลัง
2. คำนึงถึงต้นทุนและปริมาณขั้นต่ำในการผลิต
ผู้ผลิตแต่ละรายมักมีขั้นต่ำในการสั่งผลิตแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทงานพิมพ์ เช่น ดิจิทัลปริ้นท์ อาจมีขั้นต่ำเริ่มต้นที่ประมาณ 1,000 ชิ้น หรือ กราเวียร์ มักมีขั้นต่ำอยู่ที่ 10,000 ชิ้นขึ้นไป เนื่องจากต้องมีการทำเพลทพิมพ์
สำหรับผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นการสั่งผลิตจำนวนมากเกินไปอาจทำให้เงินทุนจมอยู่กับสต๊อกแพคเกจจิ้งที่ยังไม่ได้ใช้การวางแผนการเติบโตของแบรนด์ควบคู่กับการเลือกประเภทงานพิมพ์และจำนวนผลิตที่เหมาะสมเพื่อควบคุมต้นทุน ไม่สต๊อกเกิน และลดความเสี่ยงในการจ่ายเกินจำเป็น
3. ตรวจสอบคุณภาพงานและความน่าเชื่อถือของผู้ผลิตแม้ผู้ผลิตบางรายจะเสนอราคาที่ดึงดูดใจ แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ“คุณภาพของงานพิมพ์”และ“ความน่าเชื่อถือของผู้ผลิต
ขอดูตัวอย่างงานจริงหรือผลงานที่ผ่านมาอย่าเชื่อแค่ภาพจากเว็บไซต์
ตรวจสอบ วัสดุที่ใช้ ความคมชัด ความแน่นของสี และความทนทานของซองหรือถุง
เช็กว่าผู้ผลิตมี ลูกค้าจริง รีวิวจริง หรือประสบการณ์ในวงการ มากน้อยแค่ไหน
หากมีหน้าร้านหรือออฟฟิศจริง ที่สามารถเข้าไปติดต่อได้จะเพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
การเลือกผู้ผลิตที่ยินดีให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา เพราะนั่นคือสัญญาณของมืออาชีพที่พร้อมร่วมโตไปกับแบรนด์ของคุณ
4. อ่านรายละเอียดใบเสนอราคาให้ครบถ้วน ผู้ผลิตบางรายอาจเสนอราคาที่ดูเหมือนถูก แต่จริง ๆ แล้วอาจ ไม่รวม รายการสำคัญ เช่น
ค่าทำเพลท / ค่าบล็อก
ค่าจัดส่ง
ค่าตรวจสอบสีหรืองาน Proof
ค่าบริการออกแบบหรือปรับแก้ไฟล์
หากไม่ตรวจสอบให้ดี อาจทำให้ยอดรวมสุดท้ายสูงกว่าที่คิดไว้มาก
5. ตรวจแบบพิมพ์ให้รอบคอบก่อนผลิตจริง
เมื่อส่งไฟล์ออกแบบให้โรงพิมพ์แล้วอย่าเพิ่งรีบอนุมัติให้ผลิตทันทีเพราะแบบพิมพ์ที่ไม่ถูกต้องแม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้ของทั้งล็อตใช้ไม่ได้ และคุณต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนโดยไม่จำเป็น ผู้ประกอบการควรตรวจสอบรายละเอียดให้ถี่ถ้วน เพื่อให้แพคเกจจิ้งออกมาตรงตามที่ต้องการ เช่น
ขนาดซองหรือถุงตรงตามจริงหรือไม่
สีโลโก้หรือลวดลายผิดเพี้ยนหรือไม่
ตำแหน่งซีลหรือรอยพับกระทบกับตัวหนังสือหรือภาพหรือไม่
ตรวจสอบข้อความ (wording) ให้ละเอียดรอบคอบหากมีคำตกหล่นหรือสะกดผิด แล้วปล่อยให้เข้าสู่กระบวนการพิมพ์โดยไม่แก้ไข โดยเฉพาะในงานพิมพ์ระบบกราเวียร์ที่ต้องใช้บล็อกพิมพ์ การแก้ไขภายหลังจะทำได้ยากและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการทำบล็อกใหม่ ส่งผลให้ต้นทุนโดยรวมสูงกว่าที่วางแผนไว้
บทความที่เกี่ยวข้อง
